ยูนิลีเวอร์ฉลองพัฒนาผลิตภัณฑ์แฮร์แคร์ครบ 7 ความต้องการสาวไทย บินตรงแฮร์เอ็กซ์เพิร์ท “ราฟท์ บอส” จากสถาบันผม TIGI เผย “มินิมัลลิสท์” เทรนด์ผมมาแรงภายใน 5 ปีข้างหน้า

นางสาวสุทิพา ปัญญามหาทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาตลาดผลิตภัณฑ์เส้นผม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า “ยูนิลีเวอร์ขณะนี้ถือเป็นผู้นำด้านแฮร์แคร์ชั้นนำของโลก เรามีแบรนด์อยู่ในพอร์ตของเราถึง 12 แบรนด์ ซึ่งทุกแบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอของเราก็มีความโดดเด่นในแต่ละเซกเม้นท์ และสามารถตอบสนองความต้องการของเส้นผมได้ทุกแบบ ในแต่ละประเทศทั่วโลก”

“สำหรับผลิตภัณฑ์ด้านเส้นผมของยูนิลีเวอร์ในประเทศไทยมีมานานร่วม 40 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ด้วยศักยภาพของเรา ก็ช่วยให้เราสามารถ ขยายแบรนด์ผลิตภัณฑ์ด้านเส้นผมในตลาดอย่างต่อเนื่อง สร้างสรรค์ ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ครอบคลุมและสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ทุกระดับ ทำให้ผลิตภัณฑ์ด้านเส้นผมของยูนิลีเวอร์เป็น “ท็อปออฟมายด์” ที่ผู้บริโภคเลือก”

ในปัจจุบันกลุ่มผลิตภัณฑ์แฮร์แคร์ของยูนิลีเวอร์เป็นผู้นำตลาดในหลายเซกเม้นท์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดแชมพูซึ่งมีผลิตภัณฑ์ซันซิลเป็นผู้นำอันดับ 1 ในเมืองไทย และเคลียร์ เป็นผู้นำอันดับ 1 ในเซกเม้นท์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ ส่วนในตลาดครีมบำรุงผมเราก็เป็นอันดับ 1 เช่นกัน  โดยยูนิลีเวอร์ในประเทศไทย มีแบรนด์ผลิตภัณฑ์ด้านเส้นผมมากที่สุดถึง 7 แบรนด์ ซึ่งมากที่สุดในเมืองไทย ครอบคลุมที่สุดในทุกไลฟ์สไตล์ ทุกความต้องการ และทุกกำลังซื้อ ได้แก่

7) โทนี่ แอนด์ กาย เป็นแบรนด์ล่าสุดที่มีการเปิดตัว เป็นแบรนด์ที่อยู่เบื้องหลัง London Fashion Week ตลอด 15 ฤดูกาลที่ผ่านมา เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงซึ่งมีต้นกำเนิดจากซาลอน ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โทนี่ แอนด์ กายเข้ามาเติมเต็มตลาดสำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง มีความชอบเกี่ยวกับแฟชั่น และการแต่งตัวในลุคต่างๆ เพื่อแสดงความเป็นตัวของตัวเองออกมา มีจุดเด่นที่ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมถึง 4 คอลเลคชั่น ที่มาจากการแต่งตัว 4 สไตล์”

นางสาวสุทิพายังได้เผยเทรนด์การตลาดของผลิตภัณฑ์ด้านเส้นผมในอีก 5 ปีข้างหน้า ว่า “สาวๆ ยุคใหม่นับจากนี้จะมีประสบการณ์การทำผมจากซาลอนมากขึ้น ทั้งการสระ ไดร์ การดัด ทำสี ยืด บำรุง รวมทั้งมองหาผลิตภัณฑ์เส้นผมในแบบที่ใช่และเหมาะสำหรับเส้นผมตัวเองมากขึ้น ในอนาคตผลิตภัณฑ์กลุ่มพรีเมี่ยมรวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมจากซาลอนจะเป็นที่ต้องการสูงขึ้น แต่พฤติกรรมของผู้บริโภคจะเริ่มดูแลผมด้วยตัวเองที่บ้านมากขึ้น ความต้องการสำหรับผลิตภัณฑ์ก็จะไม่เป็นเพียงแค่สระบำรุง แต่รวมไปถึงการสไตลิ่งด้วยตัวเอง การบำรุงด้วยตัวเอง ดังนั้น เราจึงต้องหาผลิตภัณฑ์ด้านเส้นผมทุกรูปแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ครอบคลุม” นางสาวสุทิพา กล่าว

ในงานนี้ ยูนิลีเวอร์ได้เชิญ มร.ราฟท์ บอส แฮร์เอ็กซ์เพิร์ท ดีกรี Regional Education Director จากสถาบันผมชื่อดังระดับโลก TIGI Regional Education Director ที่จะมาอัพเดตเทรนด์แฟชั่นผมภายใน 5 ปีข้างหน้า พร้อมแชร์ประสบการณ์และโชว์เทคนิคการสไตลิ่งแบบมืออาชีพ โดยกล่าวว่า “ที่ผ่านมาเทรนด์ผมและการจัดแต่งทรงผมมักจะเปลี่ยนไปตามแฟชั่นหรือจะเรียกว่าเทรนด์ผมจะเกิดขึ้นตามแฟชั่นในขณะนั้น ซึ่งตั้งแต่เป็นช่างผมมา ผมไม่เคยเห็นเทรนด์ผมและแฟชั่นเป็นไปในทางตรงข้ามกันเลย นอกจากนี้ แฟชั่นยังเกิดขึ้นจากภาพยนตร์ ดนตรี คลับ และแฟชั่นตามท้องถนน ซึ่งมันจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงแฟชั่นที่กำลังจะมาในอนาคตได้ ซึ่งจากการคาดการณ์เทรนด์ผม “มินิมัลลิสต์” เป็นเทรนด์ผมที่มาแรงภายใน 3-5 ปีนี้อย่างแน่นอนด้วยเป็นเทรนด์ที่สื่อถึงความแข็งแรง มีโครงสร้างที่ชัดเจน ลุคดูง่ายๆ และดูล้ำสมัย ดังนั้น
สีผมที่สว่างเจิดจ้า และผมสีหม่นๆ จึงเป็นอะไรที่ชัดเจนแบบตรงกันข้ามกันได้ดี”

มร.ราฟท์ ยังกล่าวต่ออีกว่า “เทรนด์ผมของสาวเอเชียและยุโรปเป็นเทรนด์ที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยเทรนด์ผมของสาวไทยส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากประเทศญี่ปุ่น เพราะเส้นผมของสาวไทยกับสาวญี่ปุ่นมีความคล้ายคลึงกัน จึงทำให้เทรนด์ผมหลั่งไหลเข้ามาในเมืองไทย ดังนั้น การดูแลผมให้สวยสุขภาพดี จึงเป็นสิ่งที่สาวๆ ควรให้ความสำคัญเพราะหากมีสุขภาพดีแล้ว ไม่ว่าจะเปลี่ยนให้อินเทรนด์สักกี่ทรง ก็ทำได้อย่างไม่ต้องกังวล”

งานนี้ ราฟท์ บอส ยังได้มาทำโชว์การสร้างสรรค์ทรงผมกันแบบสดๆ ด้วยกัน 3 ทรงที่เหมาะกับคนไทย ได้แก่ เซเลบริตี้สาว แพร วัชราภัย สำหรับผู้หญิงที่มีปัญหาโคนผมลีบแบน เพราะอากาศเมืองไทยเป็นแบบร้อนชื้น เวลาที่ทำผมจึงมีปัญหาลีบง่ายๆ วิธีการคือการใช้แวกซ์กับเจลผสมกันเล็กน้อยที่ฝ่ามือ ก้มศีรษะลงแล้วใช้แวกซ์เจลที่โคนผมด้านหลัง ต่อด้วยสเปรย์ให้ทั่ว เคล็ดไม่ลับคือแค่ไม่ใช้แวกซ์เจลที่ผมด้านบน เพราะจะทำให้ยิ่งดูมันและลีบแบน ส่วนการทำผมสำหรับสาวห้าว แจน เตชะณรงค์ มร.ราฟท์เลือกการจัดผมให้ดูเป็นสาวเซอร์ด้วยการแบ่งผมเป็นส่วนๆ แล้วใช้ครีมแต่งผมชนิดต่างๆผสมให้พอเหมาะ แล้วจัดทรงที่ปลายผม พร้อมกับบิดเล็กน้อยให้กลายเป็นวอลุ่ม ทำให้เซเปลสาวที่มีผมลีบแบน ดูมีวอลุ่มและดูเปรี้ยวขึ้นมาทันที และสำหรับการเซทผมของหนุ่มๆ ได้หนุ่มหล่อ เอส กันตพงศ์ มาเป็นแบบให้ โดยวิธีการง่ายๆสำหรับหนุ่มๆคือ การใช้เจลแต่งผมจับไปที่โคนผมทั้งศีรษะ ส่วนด้านหน้าใช้มือ โยกโคนผมขึ้นและลง ให้ดูเป็นธรรมชาติ แล้วใช้สเปรย์ช่วยไม่ให้ดูแข็งเกินไป

มร.ราฟท์ บอสกล่าวทิ้งท้ายว่า “ถือเป็นโอกาสดีที่ทางยูนิลีเวอร์ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์และสามารถแก้ปัญหาเส้นผมของสาวไทยได้อย่างครบวงจรทั้งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดูแลและรักษาเส้นผมและสไตลิ่งถึง 7 แบรนด์ เพราะผู้หญิงแต่ละคนย่อมมีความต้องการแตกต่างกัน ดังนั้นเพื่อตอบโจทย์สาวไทยทุกความต้องการ ทุกสภาพเส้นผม และทุกกำลังซื้อ การมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลากหลายจึงเป็นทางออกที่เพอร์เฟคสำหรับทุกคน”

ในงาน ยังมีเซเลบริตี้ชื่อดังมาเป็นตัวแทนของสาวๆ หนุ่มๆ ในแต่และไลฟ์สไตล์ ที่มาแชร์ความเป็นตัวตนของพวกเธอ และแชร์ประสบการณ์ด้านเส้นผม และผลิตภัณฑ์ที่พวกเธอชื่นชอบ อาทิ มีน พีชญา วัฒนามนตรี สาวสวย ทันสมัย ร่าเริงรักอิสระมาเป็นตัวแทนของสาวซันซิล  มล.วราภา ชุมพล เซเลปมากความสามารถ ตัวแทนสาวโดฟ แพร วัชราภัย สาวทันสมัยที่โปรดปรานการทำผมจากซาลอนตัวแทนสาวเค-ราตินโนโลยี เอส กันตพงศ์ หนุ่มหล่อคนรุ่นใหม่ มั่นใจในตัวเอง ตัวแทนหนุ่มเคลียร์ เมน โบว์ ชนาพร  J เกิร์ลที่อินกับแฟชั่นญี่ปุ่นเป็นตัวแทนสาวมอดส์ แฮร์  แพร แพร์รี่พาย เป็นตัวแทนสาวเทรซาเม่ และแจน เตชะณรงค์ สาวห้าวที่ไม่ชอบเหมือนใครตัวแทนสาวโทนี่ แอนด์ กาย เป็นต้น

นางสาวสุทิพากล่าวปิดท้ายถึงวิสัยทัศน์ของกลุ่มผลิตภัณฑ์แฮร์แคร์ของยูนิลีเวอร์ว่า “เราต้องการให้คนไทยดูดี และรู้สึกดีในแบบฉบับของตนได้ในทุกๆ วัน ดังนั้นเราจึงมุ่งมั่นสร้างสรรค์ทุกผลิตภัณฑ์ให้เป็นผลิตภัณฑ์ของทุกคน และเราหวังว่าเราจะเป็นแบรนด์ที่ทุกคนรักและชื่นชอบต่อไปค่ะ”